วันพุธ, ตุลาคม 11, 2560

ประชาชนผู้มีสิทธิ์ได้ “บัตรคนจน” จวกโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ 2560 - เจ็บจี๊ดกับการรอหลายชั่วโมงเมื่อรู้ว่าสินค้าที่จะซื้อกลับมีราคาแพงกว่าท้องตลาดทั่วไป น้ำปลาทิพรสขวดละ 35 บาทจากปกติเคยซื้อ 28 บาท





รูดไม่ปรื๊ดซะแล้ว! ถอนสิทธิ์ธงฟ้า “ทุจริต” บัตรคนจน


8 ต.ค. 2560
MGR Online


นี่หรือ! ช่วยคนจน ประชาชนผู้มีสิทธิ์ได้ “บัตรคนจน” จวกโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ 2560 เละ หลังเปิดให้คนจนไปชอปปิ้งรูดบัตรซื้อของในร้านธงฟ้าประชารัฐ แต่ไหงเอาเข้าจริง ร้านธงฟ้ามีจังหวัดละไม่กี่แห่ง รอคิวทั้งวันเพื่อซื้อของวงเงิน200-300 บาท แถมสินค้าราคาแพงเวอร์ ซ้ำร้ายภาครัฐฯ ยอมรับเสียงอ่อยมีปัญหาทุจริตการใช้บัตรคนจนจริง

** เสียงเล็กๆ จากผู้มีรายได้น้อย

จากข้อมูลกรมการปกครองเผยประชากรในประเทศไทยปี พ.ศ. 2560 มีทั้งสิ้น 65.93ล้านคน โดย11.43 ล้านคน ถูกจัดว่าเป็น “คนจน” ที่สามารถได้รับบัตรคนจน หรือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่รัฐบาลชุด “บิ๊กตู่” เป็นผู้คิดโครงการให้คนจนได้เอาบัตรคนจนนี้ไว้ใช้เพื่อแบ่งเบาภาระในสังคม

ทันทีที่โครงการประกาศให้ผู้ที่มีบัตรคนจนสามารถนำบัตรที่มีวงเงินภายในบัตร 200-300 บาทต่อคน มารูดซื้อสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้ซื้อสินค้ามีคนจนมารอต่อแถวเพื่อซื้อสินค้ายาวเหยียดตั้งแต่ร้านยังไม่ทันเปิด แต่แล้วปัญหาและความลำบากของการใช้บัตรคนจนก็เริ้มขึ้น

เมื่อประชาชนผู้มีรายได้น้อยในแต่ละจังหวัดไม่รู้ว่าในพื้นที่ที่ตนเองอาศัยอยู่นั้น มีร้านธงฟ้าประชารัฐที่ไหนบ้าง บางคนเดินทางจากต่างอำเภอเพื่อเข้ามาซื้อของกับร้านธงฟ้าในตัวเมือง เสียค่าเดินทางเป็นร้อย มาถึงยังต้องมารอคิวกว่าจะได้เข้าไปเลือกซื้อสินค้า

เจ็บจี๊ดกับการรอหลายชั่วโมงเมื่อรู้ว่าสินค้าที่จะซื้อกลับมีราคาแพงกว่าท้องตลาดทั่วไป เพราะร้านค้าที่มีให้บริการรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนี้ราคาของแพงกว่าร้านปกติ แทนที่เงินสามร้อยต่อเดือนจะช่วยเหลือคนจนให้หายใจคล้องขึ้นสักนิด แต่นี่อะไร น้ำปลาทิพรสขวดละ 35 บาทจากปกติเคยซื้อ 28 บาท หรือจะเป็นน้ำอัดลมขนาด 1.25 ลิตรขายในราคา 40 บาท ซอสแม็กกี้ ขวดละ 45 บาท

แถมบางร้านค้าสั่งให้ซื้อสินค้าให้เกินวงเงินในบัตรไม่เช่นนั้นบัตรใช้ไม่ได้ หรือบางพื้นร้านธงฟ้าที่เข้าโครงการได้กำหนดสินค้าที่จะขาย มีการขึ้นราคาสินค้าเกินจริง หรือมีการบอกให้ซื้อสินค้าให้หมดในคราวเดียว ใบเสร็จไม่มีให้ คนซื้อไม่สามารถรู้ได้เลยว่าซื้อของไปเท่าไหร่แล้ว และยังมีบางร้านค้าหัวหมอมีออปชันพิเศษสำหรับลูดค้าที่ไม่อยากรอคิวนาน สามารถทิ้งบัตรไว้ที่ร้านค้าเพื่อแลกเป็นเงินสดไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้ โดยไม่ต้องมานั่งเสียเวลารอคิวหลายชั่วโมง

นายเลื่อน จารัตน์ ผู้สูงอายุ จ.สุรินทร์ อายุ 84 ปี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ผู้จัดการ Live ว่า หลังจากได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะซื้อสินค้าอะไรได้บ้าง จะตรงกับความต้องการหรือไม่ และจะซื้อได้เดือนละเท่าไหร่ เท่าที่รู้ตอนนี้ใน จ.สุรินทร์มีอยู่ 1 ร้านที่เป็นร้านที่เข้าร่วมโครงการธงฟ้า แต่คนมารอคิวซื้อค่อนข้างมาก ตนเองแก่แล้วให้มายืนรอหลายชั่วโมงเกรงจะไม่ดีต่อสุขภาพ เกิดเป็นลมหน้ามืด ลำบากคนอื่นเสียเปล่า ถ้าจะให้ดีอยากให้มีร้านค้าใกล้บ้านจะได้เดินทางไปใช้บริการได้สะดวก ยิ่งถ้าเลือกได้อยากได้เป็นเงินสดจะได้นำไปซื้อสินค้าได้ตามความต้องการมากกว่า

ด้าน นางบุญมาก อาจเสียง อายุ 43 ปี ร้านขายของชำในหมู่บ้านรายหนึ่ง บอกว่า อยากจะสมัครเข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐ เพื่อจะได้อำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านในหมู่บ้าน ทั้งจะเป็นผลดีกับตัวเองสามารถขายสินค้าได้ด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่มีความพร้อมเท่าที่ควรเพราะยังไม่ได้ติดตั้งอินเตอร์เน็ต และไม่มีชั้นวางสินค้าต่างหาก รวมถึงยังไม่รู้ว่าไปสมัครแล้วคุณสมบัติจะผ่านหรือไม่

ขณะที่ข้อมูลพบว่า จ.สุรินทร์ มีร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐแล้ว 66 ร้าน ทำการติดเครื่องรูดบัตรอีดีซีไปแล้ว 2-3 แห่งเท่านั้น ที่เหลืออีกกว่า 60 กว่าแห่งยังไม่ได้ติดตั้งเครื่องรูดบัตร จึงยังไม่สามารถใช้บริการได้







** ภาครัฐฯ กุมขมับ ปชช.-ร้านค้าส่อทุจริต

เริ่มไปได้ไม่ถึง 10 วันสำหรับโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ 2560 อธิบดีกรมบัญชีกลาง โดย น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ ถึงกับต้องยอมรับว่าขณะนี้มีปัญหาเรื่องการทุจริตจากการใช้บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 จริง

โดยปัญหาที่เจอส่วนใหญ่อยู่ตามต่างจังหวัด ซึ่งคลังจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดได้ประสานความร่วมมือกันในการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบปัญหาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ดังเช่นปัญหาการทุจริตที่พบเกิดที่ จ.มหาสารคาม โดยผู้มีรายได้น้อยเอาบัตรสวัสดิการไปแลกเป็นเงินกับร้านธงฟ้าในพื้นที่ โดยไม่เอาสินค้า ซึ่งถือว่าผิดเงื่อนไข ซึ่งหากมีการตรวจสอบแล้วว่าทำผิดจริง จะดำเนินการลงโทษตามกระบวนการ คือ ร้านธงฟ้าจะถูกถอดออกจากทะเบียนร้านธงฟ้ากับ ก.พาณิชย์ และยึดเครื่องรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) คืน ส่วนผู้ถือบัตรสวัสดิการจะถูกระงับวงเงินในบัตรทันที

ด้าน นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นห่วงเรื่องวิธีปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจเข้าข่ายการทุจริตประพฤติมิชอบ เช่น ผู้ถือบัตรนำบัตรไปแลกเป็นเงินสดจากร้านธงฟ้าประชารัฐโดยไม่รับสินค้า หรือร้านค้าบางแห่งที่ยังไม่ได้ติดตั้งเครื่องรูดบัตรอีดีซี แต่ให้ผู้ถือบัตรรับสินค้าออกไปก่อนและยึดบัตรไว้ เป็นต้น ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปแก้ปัญหา เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของโครงการที่ต้องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง

ขณะที่ นายจตุรงค์ จันทรังษ์ ผช.ผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า โครงการแจกบัตรสวัสดิการนี้ มีผลทางจิตวิทยาเพราะช่วงสร้างบรรยากาศจับจ่ายและการบริโภคในประเทศคึกคักขึ้น แต่ผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นมีไม่ถึงร้อยละ 0.1 ของจีดีพี เนื่องจากการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการเป็นการทยอยใช้เป็นรายเดือนและเป็นเม็ดเงินเดิมจากโครงการที่เคยมีอยู่แล้ว เช่น รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี จึงไม่ได้มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวแรง

เห็นหลายคนยังยังงงๆ กับ “บัตรคนจน” ว่าคืออะไร แล้วใช้ทำอะไรได้บ้าง? อธิบายง่ายๆ คือ บัตรคนจนมี 2 ประเภทแบ่งตามรายได้ คือ 1.กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000บาทต่อปี จะได้รับเงินอุดหนุนเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวน 300 บาทต่อเดือน รวมทั้งค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ค่ารถเมล์และรถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน, ค่ารถโดยสาร บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน, ค่ารถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน

2. กลุ่มที่มีรายได้เกิน30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาท จะได้รับเงินอุดหนุนเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวน 200 บาทต่อเดือน รวมทั้งค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ค่ารถเมล์และรถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน, ค่ารถโดยสาร บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน, ค่ารถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน

ความพิเศษของบัตรนี้คล้ายกับบัตรเครดิตผสมบัตร ATM ที่สามารถนำไปรูดซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคตามร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ได้ แค่รูดบัตรจ่ายเงินผ่านเครื่องอีดีซี จากนั้นรับใบเสร็จโดยในใบเสร็จจะแสดงยอดที่ใช้จ่ายไปและยอดคงเหลือในบัตร แต่จะไม่แสดงรายละเอียดว่าสินค้าแต่ละรายการนั้นราคาเท่าไหร่ ผู้ใช้ต้องบวกลบคูณหารให้เสร็จก่อนไปรูดบัตร

นอกจากนี้ “บัตรจนคน” ยังสามารถเติมเงินเข้าไปในบัตรได้ผ่านบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Money ของธนาคารกรุงไทย และยังสามารถใช้บัตรทำธุรกรรมฝาก ถอน โอน ผ่านตู้ ATM / ADM ของธนาคารกรุงไทยได้อีกด้วย

แต่ช้าก่อน...บัตรนี้ไม่สามารถกดเงินหรือโอนเงินที่ได้รับจากการการอุดหนุนของโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Money ได้ และถ้าเงินอุดหนุนใช้ไม่หมดเงินจะถูกตัดทันทีไม่สามารถเก็บสะสมเพื่อนำไปทบยอดในเดือนหน้าได้

นี่แค่เริ่มโครงการก็ทำเอาหลายคนมึม งง สับสนกันมากพอสมควรกับระบบการใช้บัตรและสิทธิ์ต่างๆ แต่ที่แน่ๆ ใครที่อยากรู้ว่าในพื้นที่ของตัวเองมีร้านธงฟ้าประชารัฐที่ไหนบ้าง กดเข้าลิ้งค์นี้ https://www.moc.go.th/index.php/tongfa.html แล้วคลิกชื่อจังหวัดที่ตัวเองอยู่ แค่นี้ก็สามารถรู้ได้ว่าพื้นที่เรามีร้านธงฟ้าประชารัฐที่ไหนบ้าง จะได้ไม่ต้องแย่งกันอยู่ร้านเดียว หรือโทรสายด่วน 1203 กระทรวงพานิชย์มีคำตอบ











ooo


รัฐบาลตั้งโต๊ะ โต้สารพัดข่าวลือโจมตีบัตรคนจน




โฆษก รบ.ตั้งโต๊ะโต้ 3 เรื่อง ทุจริตบัตรคนจน ยันไม่จริง ปม "นำบัตรแลกเงินสด-เงินเข้ากระเป๋าเจ้าสัว-สินเชื่อธนาคาร"


10 ต.ค. 2560
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า จากกรณีที่มีข่าวลือในโซเชียล และมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใน 3 ประเด็น คือ 1. มีการนำบัตรไปแลกเงินสด แทนที่จะไปแลกสินค้าที่จำเป็นและมีการหักค่าหัวคิว ซึ่งอาจมีบางส่วนที่ทำแบบนี้ ถ้าใครมีข้อมูลขอให้แจ้งรัฐบาล เพื่อตรวจสอบเอาผิดอย่างเต็มที่กับผู้ทุจริต ไม่ว่าจะเป็นร้านธงฟ้า หรือเจ้าหน้าที่ที่ให้ข้อมูลเอื้อประโยชน์ จะดำเนินการเต็มที่เพื่อให้โครงการนี้ช่วยประชาชนได้จริง 2. เงินเหล่านี้จะไหลเข้ากระเป๋าของเจ้าสัวคงเป็นไปไม่ได้ ร้านที่ผูกพันกับโครงการนี้มีผู้ประกอบการจำนวนมากเข้าร่วม ไม่ใช่เฉพาะบริษัทใหญ่ เอสเอ็มอีก็มี มีทุกกลุ่ม ข้อกล่าวนี้จึงไม่เป็นเรื่องจริง 3. ประชาชนที่มีบัตรนี้จะไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้ ซึ่งการไม่ได้รับอนุญาตให้กู้เงินไม่ได้เกิดจากโครงการนี้ แต่เป็นกฎของธนาคารในการปล่อยสินเชื่อ ทั้งหมดเป็นความพยายามทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาล นายกฯ อยากให้สื่อให้ข้อมูลประชาชนให้มีความเข้าใจว่า รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาให้ผู้มีรายได้น้อย ที่ผ่านมาช่วยแบบเหมา ไม่ได้ช่วยบุคคลที่มีปัญหาจริงๆ