วันอาทิตย์, ตุลาคม 25, 2558

มิติใหม่ของอันตราย ม.112 (ทุกสายตาไทย-ต่างประเทศ เฝ้าจับตามอง)





ที่มา เดลินิวส์
วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2558 เวลา 14:10 น.

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เผยได้รับรายงาน มีผู้ต้องหาในคดี 112 ผูกคอในเรือนจำ 1 ราย แต่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล สั่งการให้ทำตามระเบียบกรมราชทัณฑ์แล้ว

จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ผู้ต้องขังคดีความผิดมาตรา 112 ฆ่าตัวตายภายในเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี ภายในมณฑลทหารบกที่ 11 

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 24 ต.ค. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจาก นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ว่ามีเหตุผู้ต้องขังผูกคอตายในเรือนจำ เมื่อเจ้าหน้าที่พบเห็น จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ผู้ต้องขังไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงได้สั่งการให้ทำตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ด้วยการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แล้วรายงานผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการมายังสำนักงานรัฐมนตรีโดยด่วน 

นายชาญเชาว์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รับผิดชอบกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรณีที่มีผู้ต้องขังเสียชีวิตขณะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องมีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พร้อมทำรายงานข้อเท็จจริง จากนั้นต้องให้แพทย์เป็นชันสูตรหาสาเหตุการชีวิตต่อไป 

อีกด้านหนึ่ง ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายกระทำผิดมาตรา 112 ของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ "หมอหยอง" แล้ว หลังจากนี้จะต้องพิจารณารายละเอียดว่ามีการแจ้งข้อหากระทำผิดใดบ้าง เข้ามูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่อยู่ในอำนาจปปง.หรือไม่ เนื่องจากมาตรา 112 ยังไม่อยู่ในมูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน 

ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ เผยอีกว่า ส่วนข้อหาอาวุธปืน และข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ต้องพิจารณาในรายละเอียดพฤติการณ์ให้ครบถ้วนอีกครั้ง เช่น กรณีปลอมแปลงเอกสารว่าเป็นไปเพื่อการค้าหรือปกติธุระ มีการใช้บ่อยครั้งเพื่อได้ทรัพย์สิน อย่างไรก็ตามในวันที่ 29 ต.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ซึ่งจะเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมว่าปปง.มีอำนาจดำเนินการยึดและอายัดได้หรือไม่.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง...
'ราชทัณฑ์'แจงใช้เสื้อผูกคอ คาด'เอี๊ยด'มีปัญหาปรับตัว“


ราชทัณฑ์'แจงใช้เสื้อผูกคอ คาด'เอี๊ยด'มีปัญหาปรับตัว 

กรมราชทัณฑ์" แถลง "สารวัตรเอี๊ยด" ใช้เสื้อผูกคอตายจริงในห้องขังเดี่ยว ผู้คุมพบเหตุตอน 4 ทุ่ม ยังไม่ตาย จึงส่งตัวไปรพ. แต่ยื้อชีวิตไม่ได้ คาดมีปัญหาการปรับตัว สั่งตั้งกก.สอบข้อเท็จจริงด่วน

เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ทำเอกสารแถลงข่าวกรมราชทัณฑ์ เรื่องผู้ต้องขังเสียชีวิต ส่งตรงมาจากประเทศออสเตรเลีย ระบุความว่า กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานเมื่อวันที่ 23 ต .ค. 2558 เวลาประมาณ 22.00 น. จากเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี สังกัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯว่า "ข.ช.ปรากรม วารุณประภา" ผู้ต้องขังระหว่างสอบสวนในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งได้รับตัวไว้ควบคุมตามหมายขังของศาลทหารกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค.2558 ได้พยายามฆ่าตัวตาย ด้วยการใช้ผ้าจากเสื้อผู้ต้องขังที่ทางเรือนจำจ่ายให้ตามระเบียบผูกคอตัวเองกับลูกกรงห้องขังภายในเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี (มทบ.11) โดยเวรรักษาการณ์กลางคืนในวันดังกล่าวได้ตรวจพบ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาและเปิดห้องขังเข้าไปให้การช่วยเหลือในทันที ในเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องขังยังไม่เสียชีวิต จึงได้พยายามใช้เครื่องช่วยหายใจและให้การปฐมพยาบาล พร้อมกับนำตัวส่งทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ในทันที จนกระทั่งนำตัวส่งถึงทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และได้รับแจ้งจากแพทย์ในเวลาต่อมาว่าผู้ต้องขังได้เสียชีวิตแล้ว 

สำหรับ ข้อเท็จจริงเบื้องต้นมีดังนี้ 1.ห้องขังที่เรือนจำชั่วคราว ไม่ใช่ห้องขังเหมือนเรือนจำปกติทั่วไป แต่ใช้อาคารที่ทำการของหน่วยทหาร ซึ่งมีประตูทึบผนังปูน 4 ด้าน ไม่สามารถมองตรวจตราจากภายนอกได้ ต้องเปิดประตูจึงจะมองเห็น ภายในห้องขังมีเครื่องหลับนอนผู้ต้องขัง ใช้ระบบขังเดี่ยว ผู้ต้องขังทั้งหมดไม่มีโอกาสพบกัน 2.การควบคุมผู้ต้องขังเวลากลางคืนจะมีเวรผลัดละ 1 คน คอยเดินตรวจตรา ซึ่งขณะนี้ เรือนจำชั่วคราวมีผู้ต้องขังรวม 5 คน ประกอบกับเป็นวันหยุดราชการ ไม่มีการสอบสวน ผู้ต้องขังถูกขังห้องเพียงลำพัง ไม่มีโอกาสพบคู่คดี จะมีการเดินตรวจเป็นระยะเท่านั้น 3.คดีนี้เป็นคดีสำคัญ ผู้ต้องขังเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง อาจมีปัญหาในการปรับตัว เพราะเพิ่งรับตัวไว้เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2558 

นายวิทยา ระบุด้วยว่า การเสียชีวิตของผู้ต้องขังในครั้งนี้ เป็นการเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน จึงต้องดำเนินการชัณสูตรพลิกศพตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และส่งศพให้สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวด้วย เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานรายงานผู้บังคับบัญชาต่อไป.

...

ภาพจากข่าวสด




ล่าสุดจาก Sa-nguan Khumrungroj

"หมอหยอง"ความดันกำเริบ

นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ทำเอกสารแถลงข่าวกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า นายสุริยันต์ สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง หนึ่งในผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ขณะนี้ยังคงอยู่ในเรือนจำ แต่มีอาการโรคความดันกำเริบ ซึ่งแพทย์เสนารักษ์ประจำเรือนจำม.ทบ.11 กำลังดูแลให้การรักษาอยู่