วันพุธ, มิถุนายน 24, 2558

ปากคำเยาวชนหน้าหอศิลป์ฯ 1 ปีรัฐประหาร : ถูกทำร้าย-ถูกจับ-ถูกหลอก-ถูกดำเนินคดี


"ถูกหรือผิด อยู่ที่สำนึกว่าประเทศเป็นของใคร"จากการจับกุมทำร้ายร่างกายนักศึกษา-นักกิจกรรมหน้าหอศิลป์ ในวันรำลึกครบรอบ 1...
Posted by กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย (LLTD) on Monday, June 22, 2015
https://www.facebook.com/lltd.tu/videos/953561291332513/
Tue, 2015-06-23 12:54
ที่มา ประชาไท

23 มิ.ย.2558 เฟซบุ๊กแฟนเพจ กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย (LLTD) เผยแพร่วิดีโอความจริงจากปากนักศึกษา-นักกิจกรรมหน้าหอศิลป์ ครบรอบ 1 ปี รัฐประหาร 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ขนาดความยาว 9.42 นาที เพื่อทำความรู้จักกับผู้ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 7/2557 เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมือง ประกอบด้วย รังสิมันต์ โรม และ ‘บาส’ รัฐพล ศุภโสพล 2 นักศึกษากลุ่ม LLTD, ‘แมน’ ปกรณ์ อารีกุล กลุ่มลูกชาวบ้าน, ‘หนุ่ย’ อภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ กลุ่มเสรีนนทรี, ‘แซม’ พรชัย ยวนยี, ‘ลูกเกด’ ชลธิชา แจ้งเร็ว และ ‘เดฟ’ ทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์ 2 สมาชิกศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย(ศนปท.)

กับประเด็นกิจกรรมที่แต่ละคนทำมาก่อนรัฐประหา เหตุการณ์ในวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งที่หน้าหอศิลป์ฯ กทม. และ สน.ปทุมวัน การถูกทำร้ายร่างกาย ถูกจับ ถูกหลอกและถูกดำเนินคดี ตอบคำถามที่ว่านักศึกษาเป็นภัยความมั่นคงของชาติจริงหรือ? พร้อมทั้งประเด็นคำถามฝากถึงอาจารย์ที่สอนวิชากฎหมาย และความหวังของคนหนุ่มสาว

ooo


เปิดกฎหมายสู้ ชี้ออกหมายจับ 8 เยาวชนหน้าหอศิลป์ฯ ไม่ชอบ มีเจตนากลั่นแกล้ง


Tue, 2015-06-23
ที่มา ประชาไท
23 มิ.ย.2558 หลังจาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับกลุ่มเยาวชนที่ร่วมกิจกรรมรำลึก 1 ปี รัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.58 โดยเมื่อวันนี้(23 มิ.ย.58) พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ขอศาลอนุมัติหมายจับศาลกรุงเทพทั้งหมด 8 ราย ประกอบด้วย พรชัย ยวนยี อายุ 24 ปี ทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์ อายุ 23 ปี รัฐพล ศุภโสภณ อายุ 22 ปี ปกรณ์ อารีกุล อายุ 26 ปี อภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ อายุ 29 ปี รังสิมันต์ โรม อายุ 22 ปี นัชชชา กองอุดม อายุ 21 ปี และชลธิชา แจ้งเร็ว อายุ 22 ปี แล้ว พร้อมระบุว่า หลังจากทั้ง 8 คน ไม่มารับทราบข้อหาตามที่พนักงานสอบสวนนัดหมาย ครบ 2 ครั้ง ซึ่งนับตั้งแต่วันนี้ไปไม่ว่าเจ้าหน้าที่เจอตัวทั้ง 8 รายที่สถานที่ใด ก็จะมีอำนาจในการจับกุมได้ทันที ทั้งนี้ยังไม่มีการประสานจากกลุ่มใดว่าจะมีการจัดกิจกรรมในพื้นที่ของ บก.น.6 แต่อย่างใด

ด้าน กุณฑิกา นุตจรัส ที่ปรึกษากฎหมายของกลุ่มเยาวชนที่ถูกดำเนินคดีดังกล่าว กล่าวว่า สิ่งที่ พ.ต.อ. จารุต กล่าวนั้นไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะข้อที่ว่าเมื่อไม่มา 2 ครั้ง จึงต้องขอออกหมายจับตามที่กฎหมายกำหนดนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง เพราะกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา ไม่เคยมีเขียนว่าจะต้องกี่ครั้งจึงต้องออกหมายจับ และเป็นที่แน่นอนว่าที่ สน.ปทุมวัน ต้องเคยมีกรณีที่หมายเรียกผู้ต้องหาเกินกว่า 2 ครั้งก็ยังไม่ออกหมายจับ ซึ่งเรื่องนี้สามารถพิสูจน์ได้ และสน.ปทุมวันก็เคยมีกรณีออกหมายเรียกผู้ต้องหาแล้วไม่มา 3 ถึง 4 ครั้ง ก็ยังไม่ออกหมายจับ เพราะตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา อำนาจในการออกหมายจับเป็นของศาล และต้องมีเหตุเพียงพอที่จะเชื่อว่าผู้ต้องหาหลบหนี และต้องเป็นความผิด ที่มีโทษสูง แต่กรณีนี้ โทษไม่สูง เพียง 1 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ไม่เคยมีระบุเลยว่าเมื่อไม่มากี่ครั้งจึงต้องออกหมายจับ

กุณฑิกา กล่าวต่อว่า ถ้าพิสูจน์ว่า สน.ปทุมวัน ออกหมายจับโดยทำเฉพาะกรณีเด็ก 8 คนนี้เท่านั้น ผู้กำกับคนนี้จะต้องรับผิดชอบ

อนึ่ง กรณีดังกล่าวไม่ใช่กรณีที่บุคคลทั้ง 8 คน มีพฤติการณ์หลบหนี ทั้ง 8 คน จะเข้าพบตำรวจแน่นอนในวัน ที่ 24 มิ.ย.58 เวลา 13.00 น. และการที่ทั้ง 8 คน ไม่ไปพบตำรวจในวันที่ 19 มิ.ย.58 ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะอ้างจะจับคนทั้ง 8 เพราะเดิมได้มีการตกลงกันว่า จะขอเลื่อนนัดรับทราบข้อกล่าวหาจากวันที่ 8 มิถุนายน 2558 ไปเป็นวันที่ 24 มิ.ย. 58 ซึ่งตำรวจตกลงแล้ว หลังจากนั้นในวันที่ 9 มิ.ย.53 เข้าใจว่ารีบทำเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ทำหนังสือย้อนไปหลายปี (ตามรูป) ก็ทำหนังสือกลับมา เป็นหมายเรียกให้เข้าไปเข้าพบ ในวันที่ 19 มิ.ย.58 ด้วยเหตุผลที่ว่าพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบติดภารกิจ และไม่มีพนักงานสอบสวนคนใดว่างเลยในวันที่ 24 มิ.ย.58 ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะตามหลักแล้วสถานีตำรวจในประเทศไทยย่อมต้องมีตำรวจ คอยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเสมอมิเช่นนั้นแล้ว สมมติว่า ในวันที่ 24 มิ.ย.58 นาย ก. ผู้ร้ายฆ่าข่มขืนเด็กอายุ 13 ปี ไปที่สถานีตำรวจปทุมวัน แล้วไปขอมอบตัวในวันดังกล่าว ก็จะต้องบอกให้ นาย ก. กลับบ้านไปก่อน มามอบตัววันหลัง เพราะ ไม่มีตำรวจ   
กุณฑิกา กล่าวต่อว่า ข้ออ้างตามจดหมายนั้นไม่เป็นความจริงและไม่มีทางเป็นความจริง เพราะ สน.ปทุมวัน จะต้องมีพนักงานสอบสวนประจำคอยรับใช้ประชาชนอยู่แล้ว
ทางเจ้าหน้าที่มีเจตนาจะจับประชาชน โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และได้อ้างเหตุผลผิดๆ ที่ไม่มีอยู่จริง ทั้งๆที่ทางกลุ่มมีเจตนาที่จะเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ตามนัดเดิม ในวันที่ 24 มิ.ย.58 ซึ่งก็เพียงวันเดียวเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 58 คือเมื่อ 1 เดือนที่แล้ว แถมยังได้จับกุมคุมขังเด็กพวกนี้ไว้แล้ว 1 วัน ถ้าอ้างว่าคนเหล่านี้มีพฤติการณ์หลบหนี ทำไมถึงพึ่งมาเรียก เห็นได้ว่ามีเจตนาจะขัดขวางและกลั่นแกล้งไม่ให้เข้าพบในวันที่ 24 มิ.ย.58 เพราะกลัวเด็ก