วันเสาร์, สิงหาคม 23, 2557

ย้อนคำพูด “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ลับ ลวง พราง ฉบับ “บูรพาพยัคฆ์”


ที่มา Insight Foundation Website
ทีมข่าว Inside Thai Parliament
 การตัดสินใจยึดอำนาจการปกครองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกิดขึ้นท่ามกลางความตื่นตะลึงของผู้คนจำนวนมากที่ไม่คิดว่าใน พ.ศ. นี้จะมีการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกในประเทศไทย
โดยเฉพาะเมื่อย้อนดูคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้าคณะรัฐประหาร พ.ศ. 2557 ทำให้มองได้หลายแง่มุมด้านหนึ่งอาจจะมองว่า ผบ.ทบ. คิดเรื่องนี้มานานแล้วแต่พยายามปฎิเสธเพื่อหลอกล่อให้รัฐบาลตายใจ หรืออีกทางหนึ่งคือ ไม่ได้คิดมาตั้งแต่ต้น แต่เมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้นจึงเริ่มคิดอย่างจริงจัง เข้าทำนองตกกระไดพลอยโจนหรือกลอนพาไป
 9 ธ.ค. 56 
“ทหารจะไม่ปฏิวัติแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 56  พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยยืนยันว่า ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ทหารจะไม่ปฏิวัติแน่นอน “หากมีการปฏิวัติเกิดขึ้นอีกจะเป็นการแก้ปัญหาผิดทาง เพราะจะทำให้ปัญหาอื่นๆเกิดขึ้นตามมาอีก และไม่รู้ว่าสังคมไทยจะยืนอยู่บนสังคมโลกได้อย่างไร ลูกหลานเราจะอยู่อย่างไร เข้าใจว่า ทุกคนรักชาติ แต่ทำไมไม่เรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันอย่างสันติ”  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าว

20 ธ.ค. 56
 “ทหารไม่ทำอะไรนอกเหนือคำสั่ง”
ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต หลังจากการประชุมสภากลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า  “วันนี้สิ่งที่ผมห่วงด้านความมั่นคง ผมพูดได้เต็มที่ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ประชาชนแทบทุกพื้นที่มีการปลุกระดมจนจะฆ่ากันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะสีแดงหรือสีเหลืองหรือสีอะไร ต้องไปตั้งโต๊ะคุยกันทุกตำบลทุกหมู่บ้าน ทางกองทัพจะไม่ปฏิบัติอะไรที่นอกเหนืออำนาจและคำสั่ง นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังกล่าวว่า ถ้ายังจะไม่หันหน้าเข้าคุยกันอยู่อย่างนี้ จะไม่มีทางแก้ปัญหาอะไรได้
7 ม.ค. 57
 “อย่าไปกลัวสิ่งที่ยังมาไม่ถึง การรัฐประหารต้องมีสาเหตุ”
ในช่วงเดือนมกราคม มีกระแสข่าวว่า ทางกองทัพเตรียมเคลื่อนย้ายกำลังพลเข้ากรุงเทพฯ โดยอาศัยเทศกาลวันเด็กในการขนอาวุธ รถถัง เข้ากรุงเทพฯ เพื่อทำการปฏิวัติ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกระแสข่าวในช่วงนี้ว่า ข่าวลือก็เป็นข่าวที่ไม่จริง ข่าวที่ไม่จริงเพราะฉะนั้นไม่ต้องไปเชื่อ เรามีการเคลื่อนย้ายกำาลังพลมาทุกปีอยู่แล้ว “อย่าไปกลัวสิ่งที่ยังมาไม่ถึง มองไม่เห็น ผมคิดว่าทุกอย่างมีสาเหตุหมดไม่ว่าจะทำอะไรกันก็ตาม อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเรื่องเดียว ทุกเรื่องต้องมีสาเหตุ ความขัดแย้งเกิดขึ้นต้องมีสาเหตุ ต้องมีเงื่อนไข” อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนยันว่า สถานการณ์การเมืองไทย ณ ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องใช้ยาแรง อยากให้ลองหาวิธีอื่นแก้ไขปัญหา ไม่ใช่จะพึ่งให้กองทัพทำรัฐประหารอย่างเดียว
             “ทุกคนๆ ต้องช่วยกันแก้ปัญหาไม่ใช่ผมคนเดียว ถ้าแก้ปัญหาโดยให้ผมเอาองค์กรของผมไปแก้ปัญหาทั้งองค์กร ก็ไม่ใช่ ผมคิดว่า ทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหาไม่ว่าจะใคร ทุกภาคส่วน ประเทศไทยมีคน 60 กว่าล้าน มีคนหลายกลุ่ม ถ้าทุกคนสร้างความเข้มแข็งเกิดขึ้นมาให้ได้ รวมกันให้ได้ รวมพลังกันให้ได้ แล้วหาทางแก้ปัญหาขณะนี้ว่า ใครแต่ละพวกแต่ละฝ่ายจะทำอย่างไร อันนี้จะเป็นพลังสำคัญที่จะแก้ปัญหาในภาพรวม ผมคิดว่า วันนี้ทหารทำดีที่สุดแล้ว คือการทำให้สถานการณ์หยุดนิ่งอยู่กับที่ อาจจะรำคาญบ้างเล็กน้อย แต่อย่าใช้ยาแรง ผมบอกแล้ว เป็นไข้เล็กน้อย วันนี้ก็อาจจะเติมยาไปสักหน่อย อย่าเพิ่งใช้ยาแรง ถ้าใช้ยาแรงแล้วจะอันตราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าว
20 ม.ค. 57
 “อย่าบังคับให้ทหารต้องออกมาทำรัฐประหารเลย”
                พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องของความมั่นคงภายในประเทศ ที่มีเหตุการณ์ลอบยิงกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองบ่อยครั้ง โดยกล่าวว่า ขณะนี้ อยากให้ทุกคนแยกให้ออกว่า ทหารมีหน้าที่ทำอะไร ในเรื่องความมั่นคงความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุม ศอ.รส. ซึ่งจัดตั้งโดยรัฐบาลได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว ทางกองทัพมีหน้าที่จัดกำลังเพื่อสนับสนุนทาง ศอ.รส. เท่านั้น อยากให้สังคมลองดูเหตุการณ์ในอดีตว่า หากทหารใช้ความรุนแรงจะทำให้เหตุการณ์บานปลาย และเกิดปัญหาอื่นๆตามมา อย่างในปี 2553 หรือแม้แต่การทำรัฐประหารในปี 2549
 “ผมอยากย้ำเตือนทุกพวกทุกฝ่ายว่า พยายามอย่าก้าวเข้าไปสู่จุดๆนั้นเลย คนไม่ว่าจะฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็มีชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ชุมนุม เขามีพ่อ มีแม่ มีพี่ มีน้อง หากกองทัพออกมาทำรัฐประหาร อาจทำให้เกิดการต่อต้านจากหลายกลุ่มแล้วทำให้เกิดการสูญเสียตามมา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และยังคงย้ำว่า ขอให้ทุกฝ่ายร่วมหาทางออกร่วมกัน ก่อนที่กองทัพต้องออกมาทำรัฐประหาร
2 ก.พ. 57
 “เรื่องปฏิวัติ คิดไปก็เปลืองสมอง เอาเวลาคิดเรื่องทำงานดีกว่า”
                พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ได้กล่าวแถลงการณ์ภายหลังการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ในเรื่องที่มีข่าวว่า กองทัพเตรียมการที่จะทำรัฐประหาร  “ใครจะทำ ไม่มีหรอก เรื่องพวกนี้อย่าไปคิด ไม่มีประโยชน์ ควรเอาสมองไปคิดเรื่องการทำงานจะดีกว่า”
24 ก.พ. 57
ทหารยังไม่อยากใช้อาวุธมาสู้กับคนไทยด้วยกัน ไม่มีเหตุผลที่จะทำรัฐประหาร
                ในวันที่ 24 ก.พ. ได้มีการแถลงการณ์จุดยืนกองทัพบกต่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) “สิ่งที่กองทัพดำเนินการในเวลานี้จำเป็นต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก เพื่อดูแลประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง “หากกองทัพดำเนินการไม่ถูก หรือใช้กำลังทหารเต็มรูปแบบ อาจจะทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้ ทหารยังไม่อยากใช้กำลังอาวุธมาต่อสู้กับคนไทยด้วยกันเอง” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าว  นอกจากนี้ยังมองว่า ขณะนี้บ้านเมืองยังคงมีรัฐธรรมนูญบังคับใช้ ไม่จำเป็นที่ต้องถึงกับทำรัฐประหาร หากเกิดการสูญเสีย ประเทศชาติจะเสียหายหนักไปกว่านี้
17  มี.ค. 57
  “อะไรก็ได้ที่ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย”  กองทัพพร้อมจะทำ
                ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ ไว้ว่า อะไรก็ตามที่จะทำให้เกิดความสงบสุขแก่บ้านเมือง และไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย กองทัพพร้อมจะทำ ย้ำว่า ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและไม่ก้าวล่วงอำนาจใดๆทั้งสิ้น
              อย่าเอาเราเข้าไปอยู่ในความขัดแย้ง ทุกฝ่ายล้วนมีหน้าที่อยู่แล้ว เราจะปฏิบัติตามหน้าที่ของเรา วันนี้ทุกคนบอกว่า ทหารได้เวลาออกมาสักที ถ้าสมมติว่า กองทัพออกมากแล้วเกิดอะไรขึ้น มีการกระทำผิดอะไรมากๆ จลาจล บ้านเมืองจะวุ่นวายกว่านี้ และถึงเวลานั้น พวกคุณที่เรียกร้องให้ทหารออกมา จะรับผิดชอบแทนผมได้ไหม” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าว

2 เม.ย. 57

ทหารเหมือนลูกจ้างบริษัทไล่เจ้าของบริษัทออกไม่ได้

                ในวันที่ 2 ก.พ. ที่ พล. 1 รอ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง ที่มีการเรียกร้องให้กองทัพอย่ายอมรับอำนาจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นั่งคิดซักพักหนึ่ง และกล่าวว่า “สมมติท่านทำงานในบริษัทหนึ่งและท่านประท้วงเจ้าของบริษัท ถามว่า ทำได้หรือไม่ ถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับผู้บริหารของคุณ คุณกล้าไล่เขาออกหรือไม่  ถ้าไม่ได้ก็ต้องทำหน้าที่ของคุณ”

                “เมื่อเขาให้ผมทำหน้าที่อะไรผมก็ทำตามหน้าที่ ผมจะไม่วิพากษ์วิจารณ์ให้เกินเลย เพราะจำเป็นต้องรักษาสถานภาพของผม เพื่อทำงานทุกงานให้ได้ ส่วนจะผิดหรือถูก จะรับหรือไม่รับก็ต้องไปว่ากันมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

9 เม.ย. 57 
ทหารต้องทำหน้าที่ของทหาร ไม่อยากรบกับคนไทยกันเอง หากไม่จำเป็น
                ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวรายหนึ่งที่ถามถึง ”แนวทางการแก้ปัญหาเรื่องความมั่นคง” ว่า ควรไปถามรัฐบาล เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ในการบริหารประเทศ รัฐบาลน่าจะหาคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับการพาประเทศออกจากวิกฤตครั้งนี้ได้ ทหารต้องทำหน้าที่ของทหาร ถ้าเลือกได้ไม่อยากต้องใช้กำลัง อาวุธ รบกับคนไทยด้วยกันเอง
                “จะรบนอกประเทศก็ทหาร ในประเทศก็ทหารอีก พูดกันไปว่าผมอยู่ข้างนู้นข้างนี้ จุดยืนของทหารคือข้างความถูกต้องเท่านั้น ภายใต้ความอดทนและทนอยู่ทุกวันนี้ ส่วนแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดต้องไปถามรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าว 
20 พ.ค. 57 
จำเป็นต้องคุยกันทุกพวก จะรัฐประหารไหมขอไม่ตอบ
                พลเอกประยุทธ์ ในฐานะ ผอ.กอ.รส. กล่าวภายหลังการประชุมชี้แจงการประกาศกฎอัยการศึก กับหัวหน้าส่วนราชการว่า ขอให้ชุมนุมโดยสงบ จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในขณะเดียวกัน กองทัพพร้อมที่จะนำคู่ขัดแย้งมาเจรจา ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่ ในเรื่องการระงับสื่อบางช่องนั้น เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งมากกว่านี้อีก ส่วนในเรื่องทหารจะทำรัฐประหารหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เป็นคำถามที่ใครเขาก็ไม่ตอบหรอกนะ ผมไม่ตอบอะไรซักอย่าง การรัฐประหารเป็นคำถามที่ตอบไม่ได้ตอนนี้”
22 พ.ค. 57
ให้โอกาสทุกฝ่ายคุยกันแล้วหาทางออกไม่ได้ ต่อจากนี้กองทัพจะจัดการเอง
                ในวันที่ 22 พ.ค. เวลา 16.30น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พร้อมด้วย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. พลร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. แถลงการณ์ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่องการควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ เนื่องจากสถานการณ์ที่มีความรุนแรงเกิดเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมถึงต่างจังหวัดทั่วประเทศ ทางกองทัพจึงจำเป็นที่จะต้องเข้ามาเพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน และทำให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เชิญให้ทุกฝ่ายร่วมเข้าหารือเพื่อหาทางออกประเทศแล้ว แต่ไม่ได้ผล
                “ผมจะพยายามทำอย่างเต็มที่ที่จะให้เกิดความสงบสุข ทุกคนไม่ต้องเป็นกังวลแทนผม ตอนนี้ผมประกาศแล้วเป็นผู้รับผิดชอบทุกประการ ผมรู้สึกว่า ผมเกิดแผ่นดินนี้ ก็จำเป็นต้องหาความสงบสุขให้แผ่นดินนี้ เพราะผมเป็นหนี้บุญคุณแผ่นดิน หากก้าวล่วงใครไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ยืนยันผมให้เกียรติทุกฝ่ายเสมอ”  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าว