วันเสาร์, มิถุนายน 21, 2557

จดหมายถึงนกพิราบ จากผู้เคยถูกกักขัง 7 วัน


"สิทธิในความเป็นมนุษย์ด้วยความเท่าเทียมกันในเสรีภาพ ความคิด เชื้อชาติ ศาสนา เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคนมีมาตั้งแต่เกิด การใช้อำนาจกระบอกปืนข่มขู่คุกคามด้วยการจับกุม อุ้ม หรือเรียกรายงานตัวแล้วกักขังพวกเขาไว้ตามอำเภอใจ ติดต่อกับบุคคลภายนอกไม่ได้หรือบางคนอาจหายสาบสูญ

ไม่อยากเชื่อว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้จำนวนมากกลับหูหนวกตาบอด หนำซ้ำบางคนเห็นดีเห็นงามกับการกระทำเยี่ยงสัตว์ป่าเช่นนี้ สังคมกำลังถูกท้าทายระหว่างกลุ่มคนชั้นนำที่ร่ำรวยมหาศาลกับกลุ่มคนชั้นล่างถึงระดับกลางที่พวกเขาเกิดมาเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และไม่เห็นดีด้วยกับระบอบเผด็จการทุกรูปแบบ

จำนวนมหาศาลของคนชั้นล่างที่ถูกกดขี่บังคับกำลังจะลุกฮือขึ้นด้วยกฏธรรมชาติแบบ "หมาจนตรอก" เพราะเมื่อความกลัวมันถึงที่สุดแล้ว "ความกล้าอย่างบ้าคลั่ง" จะปรากฏโฉมแทน

อนาคตประเทศนี้จะเดินไปทางไหน หรือเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างต่างๆ กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า "เลือดและหยดน้ำตา" คือสิ่งแลกเปลี่ยนที่ไม่เคยเปลี่ยนมาตลอด

7 วัน ของการถูกกักตัวอยู่แต่ในบริเวณที่ถูกกำหนดโดยกระบอกปืนมันขมขื่นยิ่งนัก ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต การซักถามแกมยัดเยียดของ คสช. เป็นการบังคับยัดเยียดความผิดที่ตั้งธงไว้ล่วงหน้าแล้วของแต่ละคนที่ถูกเรียกให้รายงานตัว ว่า "มึงต้องผิด" ซึ่งข้อมูลการเรียกตัวหลายข้อมูลผิดพลาดอย่างมหันต์ เช่น เรียกผิดคน เรียกมาแล้วข้อมูลไม่ตรงกับที่ได้รับการชงมา

ชุดเจ้าหน้าที่ซักถาม (ซึ่งน่าจะเรียกว่าสอบสวนแกมยัดเยียดมากกว่า) ทั้งหมดในห้องนั้นขาดอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียวที่จะบ่งบอกว่าพวกเขาเป็นใครมาจากไหน คือ "นกหวีดห้อยคอ" หากครบองคาพยพทั้งหมดก็จะทำให้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า "ใครกำลังสอบสวนใคร"

7 วัน ในสถานกักกัน มันทำให้เราซึมซับได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเสรีภาพที่แท้จริงคืออะไร?

แม้ถูกปล่อยตัวแล้วมันก็ยังคงหลอนอยู่ตลอดเวลา ขอเป็นกำลังใจให้กับพิราบทุกตัว"