วันเสาร์, เมษายน 23, 2559

ทั่นประยุทธ์ หยุด whining เสียที ที่บ้านเมืองวุ่นวายมีปัญหามาทั้งหมด... นี่... มันเริ่มมาแต่พวก ‘เสือตะวันออก’ ยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง !!!





สะใจไหมล่ะประยุทธ์ ความที่พูดสามหาว ก้าวร้าวไปทั่ว ถึงคราวโดนย้อนเข้าให้บ้าง

จากหน้าเฟชบุ๊ค Thaksin Shinawatra วันที่ ๒๒ เมษายน ราว ๕ โมงเย็น คัดมาให้อ่านกันเต็มๆ

“ทุกวันนี้ผมเงียบมาตลอด ตั้งใจที่จะไม่ออกความคิดเห็นในเรื่องใดๆ และอยากให้ทุกฝ่ายตั้งใจแก้ไขปัญหาให้ประชาชน แต่อยู่ดีๆ ผมกลับถูกพาดพิงอย่างรุนแรง จนต้องเสียความตั้งใจ เลยต้องขอพูดสักครั้ง

การแก้ปัญหาของประเทศ ภายใต้รัฐบาลทหารของไทยในขณะนี้ มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็โทษคนอื่น โดยตนเองไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ไม่เคยทำอะไรผิด ตัวเองดีทุกอย่าง เช่นน้ำแล้งก็บอกว่า เป็นเพราะรัฐบาลก่อน ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ขายไม่ออกอย่างยางพารา ก็บอกให้ไปขายดาวอังคาร บริหารประเทศแบบนี้ใครๆ ก็เป็นได้ครับ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย

รัฐบาลนี้ได้อำนาจมาจากการรัฐประหาร ได้เข้ามาปกครองประเทศแล้วร่วม ๒ ปี ได้ทำประโยชน์อะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้ชาวโลกเขาได้เห็นบ้าง

ภาพลักษณ์ที่เผยแพร่ออกไปมีแต่การใช้อำนาจในการละเมิดสิทธิประชาชนและกฎหมายสากลอย่างไม่เคยเกิดในประเทศไทยมาก่อน เมื่อนานาอารยประเทศและองค์กรสากลต่างๆ เขาเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เขาก็ออกมาเตือน เป็นเรื่องปกติทั่วไปที่เกิดขึ้นในประเทศที่ผู้นำฯ ใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง

เมื่อผู้นำของประเทศเราไม่สนใจคำเตือน ประเทศอื่นเขาย่อมใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นการระงับการค้าการลงทุน มาตรการปิดกั้นและกีดกันต่างๆ รวมถึงการย้ายถิ่นฐานการผลิตไปยังประเทศที่ 3 กระบวนการเหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง และโมเมนตัมนี้จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปอีกนานหลายปี..

แต่..แทนที่ผู้นำเราจะยอมรับความผิด แก้ไขปัญหาเหล่านั้น และทำให้มันถูกต้องเสีย กลับออกมาโทษว่า เป็นเพราะผมไปจ้างล็อบบี้ยิสต์ เพื่อล็อบบี้ประเทศต่างๆ ให้แอนตี้ บอยคอตประเทศไทย โถ..ช่างคิดไปได้

อยากจะบอกว่า ผมไม่จำเป็นต้องไปจ้างใครให้เสียเงินเสียทอง เพื่อประจานนายกฯ ไทยให้เสียภาพลักษณ์ประเทศหรอกครับ ประวัติศาสตร์มีให้เห็นอยู่เสมอว่า เผด็จการฯที่ลุแก่อำนาจ ด่ากราดคนที่พูดจาไม่ถูกใจ ดูถูกคนยากจนว่าโง่ ใช้อำนาจเกินขอบเขต และปกครองประเทศโดยไม่เห็นหัวประชาชนนั้น ล้วนแล้วแต่แพ้ภัยตัวเองทั้งนั้น

อยากจะเป็นผู้นำประเทศ ถ้าอารมณ์ของตัวเองยังควบคุมไม่ได้ ใช้อารมณ์ด่ากราดผู้คนเพื่อเอาชนะ ตะคอกใส่นักข่าวให้เขาสงบปากสงบคำและเขียนข่าวให้ถูกใจตน ทำแบบนี้บอกเลยอย่าหวังว่าจะทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศคล้อยตาม

ถ้าอยากรู้ว่าตัวเองแย่แค่ไหน ลองเอาเทปที่คุณพูดทุกวันมาฟังย้อนหลังดูซิครับ แล้วคุณจะรู้ว่า

"ไม่มีล็อบบี้ยิสต์ในโลกคนไหนที่จะมีความสามารถทำลายคุณได้ เท่ากับคุณทำลายตัวคุณเอง"

เพราะฉะนั้น เมื่อคุณมั่นใจว่าเป็นคนดี ก็จงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชอบแก้ไขไปเถอะ อย่าทำตัวเหมือนที่ผ่านมาเลย”





สำหรับตัวการที่โดนตอกแสกหน้า ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงจะไม่ยอมฉุกคิดหรอกนะ นึกว่าอำนาจปกครองยึดมาได้ง่ายๆ เล่นกระตั้วแทงควายเพลิดเพลินต่อไป แถมทั้ง whining อย่างเดิมๆ

“ขอแค่ ๕ ปี แค่นี้ แล้วท่านจะทำอะไรของท่านไป ผมคิดว่า ๕ ปีนี่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นมาก ถ้าทุกคนร่วมมือ”

ทั่นพูดในรายการตอบคำถามโฆษกหน้าแฉล้มกระตุกเรทติ้งคืนวันศุกร์ สองทุ่มกว่าๆ ๒๒ เมษาเหมือนกัน

โดยตอนหนึ่ง ร.ต.หญิง ปริยา เนตรวิเชียร พิธีกรถามเรื่องเลือกตั้งว่า “ประเทศไทยพร้อมหรือไม่ที่จะเป็น ‘ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์’ จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งหรือไม่คะ ท่านนายกคะ”

ทั่นนาโย้กก็ ranting เชียวละ “ที่บ้านเมืองวุ่นวายมีปัญหามาทั้งหมด ผมต้องเข้ามาแก้นี่...แล้วมาบอกแก้ให้เสร็จ แก้เร็ว ๆ แก้แล้วไป แก้แล้วเลือกตั้งใหม่”

(http://prachatai.org/journal/2016/04/65396)

อ่า นี่ไง เราว่าทั่นสำคัญผิดในข้อเท็จจริงจังเปาเลยนะ ที่บ้านเมืองวุ่นวายมันเริ่มมาแต่พวกทั่น ‘เสือตะวันออก’ ยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อปี ๒๕๔๙ โน่นแล้ว

ต่อมาพวกเดียวกัน ทั่นเองก็มายึดอีกทีในปี ๒๕๕๗ จากสถานการณ์ที่พวกนั่งห้าง สลิ่ม และ ‘สมีอิสระ’ (กะพวกป็อปคอร์น) ช่วยกันจัดฉากให้ จะเอาปฏิรูปไม่เอาเลือกตั้งไง ทั่นเองก็เป็นใจส่งทหารไปตั้งบังเกอร์ปกป้องพวกปิดกรุงเทพฯ ใช่ไหม

พอยึดได้ดังใจแล้วกลัว ‘เสียของ’ ตาอยู่มางาบเอาไปครองเหมือนครั้งก่อน ก็เลยทำทุกวิถีทางให้ได้อยู่ยาว พอจะครบกำหนดสองปีก็คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ‘เรือแป๊ะ’ ให้ มีชัย ‘ไม่ปลอก’ มาร่างใหม่ แถมบทเฉพาะกาลยืดเวลาอีก ๕ ปี แล้วใครจะเชื่อว่าพอใกล้ครบห้าปีทั่นจะไม่หาเรื่องต่อไปอีก

ในเมื่อ ๕ ปีที่ทั่นขอน่ะ จะเอาครบวงจรเผด็จการเบ็ดเสร็จ บัตรเลือกตั้งใบเดียวทำให้พรรคการเมืองไม่ได้โผล่หน้าอ้าปาก นักการเมืองไม่มีทางได้เป็นนายกฯ เพราะเปิดช่องให้เสนอชื่อ ‘คนนอก’ ได้ อีกทั้งพรรค สว. ลากตั้งของทั่นได้อำนาจเต็ม รวมถึงโหวตคว่ำรัฐบาล ถ้าประชามติผ่าน

แล้วนี่อาทิตย์หน้า ๒๕-๒๘ เมษา ทั่นรองฯ ฝ่ายกลาโหม (ควบตำรวจ) ก็จะไปทำพิธีปฏิสัมพัทธ์กับรัสเซียที่กรุงมอสควา “จะมีการลงนามในร่างความตกลงฯ ซึ่งเป็นร่างที่ระบุถึงขอบเขตความร่วมมือทางทหาร ระหว่างไทยและรัสเซีย” เสียด้วย

(ดูข่าวมติชน ๑๒ เมษา http://www.matichon.co.th/news/103995)

นั่นอาจเป็นการเดินแนวนโยบายต่างประเทศที่สุ่มเสี่ยง และพาประเทศถลำลึกเข้าสู่การโดดเดี่ยวจากโลกตะวันตกได้ ด้วยจุดมุ่งหมายเพียงการซื้อรถถังฝูงใหม่ สะใจกองทัพเท่านั้นเอง

คำพูดที่ว่า “ผมให้ทุกอย่างแล้ว แต่ท่านไม่ให้ผมเลย” นั่น เป็นคำที่ประชาชนควรพูดถึงทั่น แต่ดันแย่งเอาไปจากปากพวกเขาเสียนี่