วันอาทิตย์, พฤษภาคม 24, 2558

"ประยุทธ์-ทักษิณ"สัมภาษณ์พิเศษ"ซีเอ็นเอ็น"ครบรอบ1ปีรัฐประหาร




เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับไมเคิล โฮล์มส ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น ถึงประเด็นของรัฐไทยภายหลัง 1 ปี การปฏิวัติโดยทหาร (คลิกชมคลิปจากซีเอ็นเอ็น)

ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

CNN: คุณคิดอย่างไรกับเรื่องคดีของน้องสาวของคุณ
ทักษิณ: โดยปกติแล้ว ตามหลักกระบวนการยุติธรรม ศาลต้องสันนิษฐานก่อนว่าผู้ต้องสงสัยเป็นนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ ก่อนที่จะได้รับการพิสูจน์ว่ามีความผิดจริง นั่นคือหลักนิติธรรม อย่างไรก็ตาม ก็มีบางสิ่งที่ผมเป็นกังวล

CNN: คุณคิดว่ายิ่งลักษณ์จะได้รับการตัดสินอย่างยุติธรรมมั้ย?
ทักษิณ: ผมเป็นกังวลบ้าง ผมหวังว่าเธอจะได้รับการตัดสินอย่างยุติธรรม แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเป็นกังวลอยู่

CNN: คุณยังมีผู้สนับสนุนจากประเทศไทยเยอะมาก จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคุณคิดว่าเขาจะออกมาประท้วงอีกหรือไม่
ทักษิณ: ผมพยายามบอกให้พวกเขาอดทน หากจำเป็นต้องทำจริงๆขอให้เป็นการประท้วงที่สงบ ไม่มีความรุนแรง หากไม่จำเป็นแล้วไม่ต้องออกมาประท้วง

CNN: คุณคิดว่าจะมีเหตุใดบ้างที่ทำให้พวกเขาออกมาประท้วง หากคุณบอกให้พวกเขาอดทน ความอดทนจะหมดไปภายใต้ปัจจัยอะไร?
ทักษิณ: ผมคิดว่าพวกเขาจะไม่ออกมา ยกเว้นสถานการณ์มันจะแย่มากๆ แต่มันดูเหมือนว่ารัฐบาลทหารกำลังทำการทดสอบ พวกเขาพุ่งน้ำหนักไปที่ว่า ประชาชนจะออกมาเคลื่อไหวหรือไม่นั้น ทำให้เรารู้ว่าพวกเขากำลังทดสอบอยู่ เราเพียงต้องรอ




CNN: เมื่อไหร่จะมีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย?
ทักษิณ: มันจะมีการเลือกตั้งแน่ แต่เป็นประชาธิปไตยหรือไม่นั้น ผมไม่แน่ใจ (หัวเราะ)

CNN: คิดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร?
ทักษิณ: รัฐบาลทหารพยายามจะครอบครองอำนาจให้นานที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แต่ยังไงก็จะเกิดการเลือกตั้งขึ้น

CNN: คุณพิสูจน์ว่าตัวเองไม่มีความผิดได้อย่างไร ภายใต้สถานการณ์แบบนี้?
ทักษิณ: ง่ายจะตาย ก็ผมไม่ได้ทำความผิด เนื่องจากมันเป็นการเมือง แม้กระทั่งตำรวจสากลยังสรุปว่าสถานการณ์นี้เป็นเรื่องของแรงจูงใจทางการเมือง

CNN: คุณเคยโน้มน้าวใจผู้มีอำนาจในไทยบ้างหรือไม่?
ทักษิณ: ผมไม่เป็นจำเป็นต้องโน้มน้าวใคร ผมแค่รออยู่ตรงนี้ ไม่ต้องรีบ แค่ทำให้ตัวเองพร้อม อดทนรอ เวลาจะมาถึง

CNN: คุณคิดว่าจะคุณจะได้เป็นนายกฯ อีกครั้งหรือไม่?
ทักษิณ: ผมไม่คิดว่าผมคาดหวัง ผมคิดว่าผมข้ามขั้นนั้นไปแล้ว ผมเป็นนายกมา 6 ปี ผมไม่ได้เสพติดอำนาจ ผมแค่อยากช่วยประชาชน




CNN: เป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าแปลกประหลาดมาก ที่คนร่ำรวยอย่างมากคนหนึ่ง จะได้รับความนิยมจากคนรากหญ้าที่ไม่ร่ำรวย?
ทักษิณ: คุณรู้หรือไม่ว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะกล้องเนี่ย มันสามารถทำให้คุณเห็นได้ชัดหมด ไม่ว่าตา หรือใบหน้า เห็นว่าคุณครุ่นคิดได้ เห็นว่าคุณอยู่กับพวกเขาหรือไม่ หรือเพียงแค่คุณหลอกลวง หรือแค่แสร้งทำ พวกเขารู้ดี แต่ผมอยากช่วยพวกเขาจริงๆ ในช่วงเวลาที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ทุกช่วงเวลาผมคิดแต่ว่าจะช่วยพวกเขาได้อย่างไร ทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้อย่างไร

CNN: แล้วสำหรับคุณ ข้อหาต่างๆ มันมาได้อย่างไร?
ทักษิณ: พวกเขาแค่พยายามที่จะหาข้อหาอะไรก็ได้สักอย่าง ที่ทำให้ผมออกไปนอกประเทศ พวกเขาไม่อยากให้ผมกลับไป


CNN: เป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าแปลกประหลาดมาก ที่คนร่ำรวยอย่างมากคนหนึ่ง จะได้รับความนิยมจากคนรากหญ้าที่ไม่ร่ำรวย?
ทักษิณ: คุณรู้หรือไม่ว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะกล้องเนี่ย มันสามารถทำให้คุณเห็นได้ชัดหมด ไม่ว่าตา หรือใบหน้า เห็นว่าคุณครุ่นคิดได้ เห็นว่าคุณอยู่กับพวกเขาหรือไม่ หรือเพียงแค่คุณหลอกลวง หรือแค่แสร้งทำ พวกเขารู้ดี แต่ผมอยากช่วยพวกเขาจริงๆ ในช่วงเวลาที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ทุกช่วงเวลาผมคิดแต่ว่าจะช่วยพวกเขาได้อย่างไร ทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้อย่างไร

CNN: แล้วสำหรับคุณ ข้อหาต่างๆ มันมาได้อย่างไร?
ทักษิณ: พวกเขาแค่พยายามที่จะหาข้อหาอะไรก็ได้สักอย่าง ที่ทำให้ผมออกไปนอกประเทศ พวกเขาไม่อยากให้ผมกลับไป




ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านั้น 1 วัน (21พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์แอนดรูว สตีเวนส์ บรรณาธิการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ถึงสถานการณ์ในประเทศไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาลปัจจุบัน(คลิกชมคลิปจากซีเอ็นเอ็น)

โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่า การบริหารประเทศยังเป็นไปเพื่อนำความเป็นประชาธิปไตยกลับคืนมา แม้จะต้องเลื่อนเวลาในการเลือกตั้งออกไป เป็นช่วงระหว่างเดือนสิงหาคมและกันยายน พ.ศ. 2559 หลังก่อนหน้านี้เคยระบุว่า จะมีการเลือกตั้งในช่วงต้นปี 2559 ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ชี้ว่าช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นช่วงที่เร็วที่สุด เนื่องจากจะต้องมีการทำประชามติ

ระหว่างการสัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ถือโอกาสนี้เพื่อแจ้งให้โลกทราบถึงเหตุผลว่าทำไมตนอยู่ตรงนี้ ทำงานอยู่ตรงนี้ ตนไม่เคยต่อต้านประชาธิปไตย ไม่ว่าจะในโลกตะวันตกหรือตะวันออก เป็นทหารภายใต้ระบอบประชาธิปไตยมาทั้งชีวิต และสนับสนุนรัฐบาลที่ผ่านมาทุกสมัย แต่รัฐบาลยุคก่อนหน้าไม่สามารถขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าได้




นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรามีโรดแมปไปสู่ประชาธิปไตย เมื่อใดก็ตามที่รัฐธรรมนูญใหม่ร่างเสร็จ และได้ทูลเกล้าฯ พระมหากษัตริย์เพื่อลงพระปรมาภิไธยนั้น จะนำไปสู่การเลือกตั้งตามเวลาที่กำหนด แต่อาจมีเหตุให้การเลือกตั้งล่าช้า หากสภาปฏิรูปแห่งชาติปัดตกร่างรัฐธรรมนูญ

ก่อนจะเสริมว่า ตนไม่ได้พยายามที่จะต่อต้าน สร้างความล่าช้า หรือแทรกแซงแม้แต่น้อย “ผมไม่ต้องการอยู่ในอำนาจ” แต่ตนเองเป็นคนเดียวที่สามารถจัดการปัญหาของประเทศไทยภายใต้ระบบกฎหมายในตอนนี้

นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ประเทศไทยจะต้องเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ โดยพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราต้องสร้างประชาธิปไตยให้เข็มแข็งและยั่งยืน มีความสงบโดยที่จะไม่เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก




สตีเวนส์ถามต่อว่า หากประเทศไทยคืนสู่ประชาธิปไตยแล้ว คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าประเทศจะไม่กลับสู่สภาวะที่เคยเป็นมา โดยพล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “นั่นสิ หากคุณถามผมว่าผมมั่นใจมั้ย ผมตอบไม่ได้ แต่ผมมั่นใจในเรื่องที่ผมทำอยู่ตอนนี้ จะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชนชาวไทยที่จะขีดเขียนอนาคตของตัวเอง”

ช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ สตีเวนส์ถามถึงประเด็นมาตรา 44 ว่าแม้จะมีการยกเลิกกฎอัยการศึกในไทย แต่มาตรา 44 เป็นการประกาศให้ตนเองมีอำนาจเบ็ดเสร็จ เหตุใดมาตราดังกล่าวจึงมีความจำเป็นในการแก้ไขปัญหา

พลเอกประยุทธ์ชี้ว่า “เหตุใดถึงต้องการมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญนี้ หากไม่มีมาตรา 44 เราก็แทบจะทำงานไม่ได้เลย ด้วยความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและวิถีในการบริหาร แต่ขอย้ำว่า ผมไม่เคยใช้อำนาจนี้ในทางมิชอบ ไม่เคยใช้ทำร้ายใคร ไม่เคยฆ่าใคร ไม่เคยสั่งประหารใคร ผมไม่เคยคิดอย่างนั้น พวกเราเป็นคนไทยด้วยกันทั้งหมด”